กระบวนการเข้มขึ้นของสีผิว ( Melanin-Biosynthesis Pathway) ในความหมายของแพทย์ผิวหนัง
ในผิวหนังของคนเรามีเซลล์ชนิดหนึ่งเรียกว่า Melanocyte เจ้าเมลาโนไซด์นี้ มีหน้าที่ สร้างสารชนิดหนึ่งซึ่งมีผลต่อความเข้มของสีผิว เป็นสารที่เราๆรู้จักกันดี คือ Melanin เมลานิน หลังจากเมลานินสร้างเสร็จ ก็จะมีเซลล์ชื่อว่า Keratinocyte เคราติโนไซด์ เป็นเสมือนรถบรรทุก ขนส่งพวกเมลานิน ไปยังชั้นหนังกำพร้าด้านบน ในกระบวนการนี้ จะมีเอมไซด์ที่ใช้ในการสร้างเม็ดสีและการขนส่งหลายตัวชื่อ Tyrosinase emz, Glutathione emz , Cysteine emz, D polymerase emz, D peoxidase ดังนั้น การที่คนเรามีผิวสีต่างกัน ไม่ว่าจะเกิดจากเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ หรือเกิดจากอายุ แสงแดด มลภาวะ ยา ฮอร์โมน สารเคมี ก็จะเกี่ยวข้องกับ pathway ที่ได้กล่าวแล้วไปข้างต้นทั้งนั้น
ดังนั้น ยาหรือสารที่ช่วยทำให้หน้าขาวนั้น (Whitening Agent) ก็คือสารที่ทำหน้าที่ ยับยั้งกระบวนการ Melanin-Biosynthesis Pathway นั้นเอง ซึ่งสารที่ทำให้หน้าขาวนั้น มีกลไกการทำงานดังนี้
1. ยับยั้งการสร้างเอมไซด์ ไทโรสิเนส ( Tyrosinase emzyme ) เช่น Placenta extract (รกแกะ), Lactic acid , Azelaic acid, PPE ( palmaria palmata extract)
2. ยับยั้งหรือรบกวนการทำงานของเอมไซด์ Tyrosinase emz เช่น Hydroquinone , Kogic acid, Licorice ( สารสกัดจากชะเอม ), Vitamin C, Arbutin, Green tea extracts ( สารสกัดจากชาเขียว ), Paper Mulberry extracts ( สารสกัดจากใบหม่อน ), Tranxamic acid, PPE ( palmaria palmata extract สารสกัดจากสาหร่ายแดง)
3. เพิ่มการสลายตัวของ Tyrosinase emz เช่น Alpha linoleic acid
4. ยับยั้งการทำงานของเอมไซด์ Glutathione emz , Cysteine emz ซึ่งพบในน้ำผึ้ง นี่คือสาเหตุว่าทำไมเอาน้ำผึ้งมาทาหน้า แล้วหน้าจึงใสคะ
5. ยับยั้งการทำงานของเอมไซด์ D polymerase emz เช่น Arbutin, Vitamin C, Kogic acid, Licorice
6. ยับยั้งการทำงานของเอมไซด์ D peoxidase เช่น Arbutin
7. ยับยั้งการเคลื่อนตัวของเม็ดสี สู่เซลล์ชั้นบน เช่น PPE (palmaria palmata extract) , Niacinamide (Vitamin B3)
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ยา สารเคมี หรือ สารจากธรรมชาติ ที่เราเห็นกันทั่วไป ที่ใช้ทำให้หน้าขาวนั้น ก็มีแนวคิดมาจากหลักการดังกล่าวข้างต้น กระบวนการสร้างเม็ดสี ถ้าถูกยับยั้งก็จะทำให้การสร้างเม็ดสีลดลง ผิวจึงขาวขึ้น ถ้าขั้นตอนในการสร้างถูกรบกวนยับยั้งมาก ก็จะช่วยให้เม็ดสีสร้างได้น้อยลง ผิวก็จะขาวขึ้นเร็ว
1. ยับยั้งการสร้างเอมไซด์ ไทโรสิเนส ( Tyrosinase emzyme ) เช่น Placenta extract (รกแกะ), Lactic acid , Azelaic acid, PPE ( palmaria palmata extract)
2. ยับยั้งหรือรบกวนการทำงานของเอมไซด์ Tyrosinase emz เช่น Hydroquinone , Kogic acid, Licorice ( สารสกัดจากชะเอม ), Vitamin C, Arbutin, Green tea extracts ( สารสกัดจากชาเขียว ), Paper Mulberry extracts ( สารสกัดจากใบหม่อน ), Tranxamic acid, PPE ( palmaria palmata extract สารสกัดจากสาหร่ายแดง)
3. เพิ่มการสลายตัวของ Tyrosinase emz เช่น Alpha linoleic acid
4. ยับยั้งการทำงานของเอมไซด์ Glutathione emz , Cysteine emz ซึ่งพบในน้ำผึ้ง นี่คือสาเหตุว่าทำไมเอาน้ำผึ้งมาทาหน้า แล้วหน้าจึงใสคะ
5. ยับยั้งการทำงานของเอมไซด์ D polymerase emz เช่น Arbutin, Vitamin C, Kogic acid, Licorice
6. ยับยั้งการทำงานของเอมไซด์ D peoxidase เช่น Arbutin
7. ยับยั้งการเคลื่อนตัวของเม็ดสี สู่เซลล์ชั้นบน เช่น PPE (palmaria palmata extract) , Niacinamide (Vitamin B3)
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ยา สารเคมี หรือ สารจากธรรมชาติ ที่เราเห็นกันทั่วไป ที่ใช้ทำให้หน้าขาวนั้น ก็มีแนวคิดมาจากหลักการดังกล่าวข้างต้น กระบวนการสร้างเม็ดสี ถ้าถูกยับยั้งก็จะทำให้การสร้างเม็ดสีลดลง ผิวจึงขาวขึ้น ถ้าขั้นตอนในการสร้างถูกรบกวนยับยั้งมาก ก็จะช่วยให้เม็ดสีสร้างได้น้อยลง ผิวก็จะขาวขึ้นเร็ว